มนุษย์ในอีก 1,000 ปีข้างหน้าจะหน้าตาเป็นเช่นไร? คำถามนี้ถูกนำมาตีความผ่านเทคโนโลยี AI และผลลัพธ์ที่ปรากฏกลับกลายเป็นชนวนให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์
ความก้าวกระโดดของเทคโนโลยี AI ในปัจจุบันไม่เพียงแต่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน แต่ยังปลุกกระแสให้ผู้คนตั้งคำถามถึงอนาคตของมนุษยชาติ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทีมงานวิศวกรจาก UNILAD สื่อออนไลน์ชื่อดังของอังกฤษ ตัดสินใจทดลองใช้ AI จำลองภาพใบหน้ามนุษย์ในอีกพันปีข้างหน้า ผลงานชุดนี้แม้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่ก็สร้างกระแสความสนใจได้อย่างล้นหลาม
ทีมงานเลือกใช้โปรแกรม Midjourney ในการสร้างภาพดังกล่าว โดยภาพที่ออกมาแสดงให้เห็นแฟชั่นสุดล้ำและรูปลักษณ์ที่ไม่คุ้นตา ใบหน้ามนุษย์ถูกปกคลุมไปด้วยโครงข่ายสายไฟ คล้ายเป็นสัญลักษณ์แทนความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยีในอนาคต เมื่อเครื่องจักรและระบบดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์อย่างสมบูรณ์
หนึ่งในภาพที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือภาพชายจากปี ค.ศ. 3000 ที่ดูราวกับสละผิวหน้าของตนเพื่อเปิดทางให้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ ภาพนี้สร้างความกังวลให้ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อย บางคนมองว่าเป็นภาพที่น่าขนลุก ขณะที่บางส่วนเห็นว่านี่อาจสะท้อนการวิวัฒน์ในเชิงสัญลักษณ์มากกว่า
แม้จะมีเสียงวิจารณ์แตกต่างกันไป แต่ AI ยังคงสร้างภาพในลักษณะคล้ายคลึงกันซ้ำ ๆ ในหลายเวอร์ชัน เช่น ใบหน้าที่ยังคงมีผิวหนังแต่ถูกแทรกด้วยเส้นสายไฟระโยงระยาง ทำให้ผู้ชมยิ่งรู้สึกงุนงงว่าแท้จริงแล้วภาพนี้กำลังสะท้อนอะไร บ้างก็ถึงขั้นคาดเดาว่าอาจเป็น “ค่านิยมความงาม” ในอีกพันปี ที่มนุษย์อาจอวดจำนวนสายไฟบนใบหน้าเสมือนเครื่องประดับ
ในบางภาพ AI ยังสร้างใบหน้าที่ดู “ธรรมดา” มากขึ้น ไม่ได้ตามกระแสติดสายไฟเต็มหน้า แต่กลับปรากฏรายละเอียดประหลาดแทรกเข้ามา เช่น โครงสร้างแปลกตาหรือองค์ประกอบที่ชวนให้นึกถึงภาพยนตร์ไซไฟ สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้ผู้ชมเกิดคำถามว่า แท้จริงแล้วการทำนายของ AI อิงจากข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์หรือเพียงถูกแต่งแต้มด้วยจินตนาการและแรงบันดาลใจจากผลงานไซไฟกันแน่
สุดท้าย ผลงานนี้ไม่ได้เพียงเปิดภาพจำลองมนุษย์ในอนาคตเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงการรับรู้และความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี ที่กำลังกลายเป็นหัวข้อใหญ่ให้ถกเถียงกันในสังคมว่า อีก 1,000 ปีข้างหน้า มนุษย์เราจะเปลี่ยนไปเพียงใด และจะยังคงเป็น “มนุษย์” อย่างที่เราเข้าใจอยู่ในวันนี้หรือไม่




