สร้างความฮือฮาไปทั่วโซเชียลอีกครั้งสำหรับ “จางป๋อจือ” อดีตนางเอกขวัญใจมหาชนแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง หลังจากปรากฏตัวล่าสุดด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนไปจนแฟนๆ หลายคนถึงกับตกใจ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเมคอัพหรือผ่านการทำอะไรบางอย่างมาหรือไม่ กระแสวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงทันทีจนชื่อของเธอถูกพูดถึงไปทั่วประเทศจีน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในงานคอนเสิร์ตของ หลินเจียเฉียน เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยจางป๋อจือวัย 45 ปี ปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้มสดใส แต่กลับกลายเป็นประเด็นร้อน เพราะแฟนๆ หลายคนมองว่า “ดูแข็งทื่อ” ใบหน้าตึงจนคล้ายหุ่นขี้ผึ้ง อีกทั้งฟันที่ขาวโพลนเกินจริงยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ดูแปลกตา จนบางคนถึงกับบอกว่าต้องหันมาขยี้ตาซ้ำเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าใช่เธอจริงหรือไม่
ใน Weibo มีผู้ใช้งานจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่าดาราสาวอาจพึ่งพาการเสริมความงามมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ การเติมฟิลเลอร์ หรือแม้แต่การทำฟันปลอม ซึ่งอาจทำให้ความเป็นธรรมชาติบนใบหน้าหายไปอย่างเห็นได้ชัด หลายคอมเมนต์เตือนด้วยน้ำเสียงห่วงใยว่า “อย่าฝืนย้อนวัยจนเกินพอดี” เพราะความพยายามทำให้ดูอ่อนเยาว์แบบไม่สมจริง อาจส่งผลย้อนกลับทำให้เสียโฉมและหมดเสน่ห์ไปแทน
บางข้อความยังย้อนเล่าให้เห็นว่า ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา จางป๋อจือเริ่มมีใบหน้าที่บวมและผิดรูปอยู่บ้างแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นจนกลายเป็นกระแส ส่วนอีกฝั่งของแฟนคลับกลับมองต่าง โดยเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจเป็นเพียงเรื่องของเทรนด์การแต่งหน้า ที่เปลี่ยนจากโทนแมตต์แบบดั้งเดิมไปเป็นสไตล์เกาหลีที่เน้นผิวฉ่ำวาวและคิ้วตรง จึงทำให้ลุคออกมาแตกต่างจากที่เคยเห็น
ย้อนกลับไปในยุค 90s ถึงต้น 2000s ชื่อของจางป๋อจือถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “ไอคอนความงาม” แห่งฮ่องกง ลูกครึ่งจีน-อังกฤษคนนี้มีโครงหน้าที่หลายคนยกให้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งหวานละมุนและสง่างาม จนได้รับฉายาว่าเป็น “รักแรก” และ “แสงจันทร์” ของผู้คนจำนวนมาก รายงานจากสื่อดังอย่าง Sina ยังยกย่องว่า แม้แต่ AI ก็ไม่สามารถสร้างใบหน้าที่เลียนแบบความสวยจริงของเธอในวัยสาวได้
ทว่าภาพเปรียบเทียบจากอดีตสู่ปัจจุบัน ทำให้แฟนๆ หลายคนรู้สึกเสียดาย เพราะเชื่อว่าการเสริมความงามในยุคนี้ที่มากจนเกินไป อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของจางป๋อจือค่อยๆ เลือนหายไป และอาจไม่หวนกลับมาอีกครั้ง…
