ถึงกับหลั่งน้ำตา! “ฉี ยู่ฉี” เผยจุดเปลี่ยนโค่น “วิว กุลวุฒิ” ซิวแชมป์โลกสมัยแรก

ควันหลงความยิ่งใหญ่จากศึกแบดมินตัน บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 (BWF World Championships) ที่จัดขึ้น ณ อาดิดาส อารีน่า กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2568 กลายเป็นเรื่องราวที่แฟนกีฬาทั่วโลกต้องกล่าวถึง เมื่อ “ฉี ยู่ฉี” มือหนึ่งของโลกจากจีน ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์โลกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในชีวิต

เกมพลิกล็อกกลางคอร์ต ตบจีนพลิกสถานการณ์คว่ำ “แชมป์เก่า”

ในรอบชิงชนะเลิศประเภทชายเดี่ยว ฉี ยู่ฉี ต้องเจอกับบททดสอบหนักหน่วงเมื่อต้องดวลกับ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ขวัญใจชาวไทย เจ้าของตำแหน่งแชมป์เก่า เกมแรกนักตบลูกขนไก่ไทยอาศัยความแน่นอนและการอ่านเกมที่เฉียบคม เอาชนะไปก่อน 21-19

อย่างไรก็ตาม เกมที่สอง ฉี ยู่ฉี กลับมาด้วยความดุดัน ใช้ลูกบุกหนักและการคุมจังหวะที่เหนือชั้น ไล่ต้อนเอาชนะ 21-10 ส่งให้เกมต้องตัดสินกันในเกมสาม ก่อนที่สุดท้าย นักตบแดนมังกรจะอาศัยความนิ่งและจังหวะสำคัญ พลิกคว้าชัย 21-18 รวมผลชนะ 2-1 เกม คว้าแชมป์โลกสมัยแรกในเส้นทางอาชีพ

เปิดใจหลังแมตช์ “วิวคือคู่แข่งที่สร้างปัญหาได้เสมอ”

หลังจบเกม ฉี ยู่ฉี ยอมรับตรงไปตรงมาว่า กุลวุฒิ คือคู่ต่อสู้ที่ไม่เคยประมาทได้เลย ทุกครั้งที่เจอกันมักสร้างแรงกดดันจนเขาต้องออกแรงเต็มที่

“มันเป็นเกมที่สุดยอดจริงๆ ไม่มีใครมีอาการบาดเจ็บ ทุกอย่างสูสีตั้งแต่ต้นจนจบ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของวิวในสองแต้มสุดท้ายที่ทำให้ผมได้เปรียบและปิดเกมลงได้” ฉี กล่าว

ความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้

นักตบลูกขนไก่วัย 29 ปี ยังเผยถึงสภาพจิตใจที่เป็นแรงผลักดันสำคัญตลอดทัวร์นาเมนต์

“ผมไม่เคยกลัวแพ้ แต่สิ่งที่ผมต้องการคือชัยชนะ ผมผ่านอุปสรรคมาไม่น้อย แต่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์กดดันแค่ไหน ผมยังคงโฟกัสที่จะเอาชนะ ผมซ้อมอย่างหนักเพื่อเดินมาถึงวันนี้”

น้ำตาแห่งความฝันที่รอคอย 10 ปี

ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ฉี ยู่ฉี ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อเล่าถึงความรู้สึกในการครองแชมป์โลกสมัยแรกที่รอคอยยาวนานกว่า 10 ปี

“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมไม่คิดว่าตัวเองจะก้าวถึงตำแหน่งแชมป์โลก ทุกแมตช์เต็มไปด้วยความยากลำบาก เหนื่อยเกินกว่าจะบรรยาย แต่สุดท้ายชัยชนะครั้งนี้คุ้มค่ากับการต่อสู้ที่ผมทุ่มเท” เขากล่าวทั้งน้ำตา

ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ ฉี ยู่ฉี ขึ้นแท่นแชมป์โลกครั้งแรกในชีวิต แต่ยังตอกย้ำความเป็นนักกีฬาที่เปี่ยมด้วยหัวใจนักสู้ สมศักดิ์ศรีมือหนึ่งของโลก และเป็นอีกหนึ่งแมตช์ประวัติศาสตร์ที่แฟนแบดมินตันจะจดจำไปอีกนาน

Scroll to Top